31.03.11

สิ่งที่สอนข้าพเจ้าคือ เวลา นาที และขโมย


เป็นเรื่องที่ซิสเตอร์เองคิดว่าเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ก็ยังอดคิดถึงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อ "ขุมทรัพย์ในภาชนะดินเผา" ของคุณพ่อทัศนุ หัตถการกุลในเรื่องขโมยยามค่ำคืน พูดแล้วยังพาคิดถึงเรื่องขำๆที่เกิดขึ้นที่โบสถ์ ซิสเตอร์ฝันแปลกถึงท่านเจ้าอาวาส ซึ่งก็คือคุณพ่อราฟาแอล มาแนนติ เจ้าวัดผู้มีอารมณ์ขันแทบจะตลอดเวลา ท่านพูดถึงเงินที่หายไป... อ้าว... เงินอะไรหายหรอคุณพ่อ? ไม่เห็นเคยรู้เรื่อง จะทำยังไงได้ล่ะ?... ความฝันเรายิ่งเป็นความจริงอยู่บ่อยๆ เสียด้วย แต่ถ้าคราวนี้จะไม่เป็นความจริงก็ขอบคุณพระเจ้าเพราะอาจเป็นพระประสงค์ของพระที่จะให้ซิสเตอร์ตื่นเช้ากว่าเดิม เนื่องจากเพิ่งกลับจากการเดินทางไกลมา เอาล่ะ ไม่ว่าเหตุผลยังไงก็เหลือทางเดียวแล้วล่ะ ซิสเตอร์เลยไปโบสถ์ตั้งแต่หกโมง หมายจะไปนอนเฝ้าประตูบ้านพ่อเจ้าอาวาสแทนหมาของท่าน เอา...เอา..เพื่อความชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เงินมันไม่เดินหายไปไหนหรอก...โดยเฉพาะมีคนมานั่งเฝ้ามันด้วยความรักหนักหนาแต่เช้าด้วยนี่

ความคิดของซิสเตอร์น่าจะเป็นจริงนะ ก็เงินพวกนั้นอยู่ถึงในบ้านเจ้าอาวาสผู้โด่งดังแล้ว มีเรอะท่านจะปล่อยให้หายไปง่ายๆ ถ้าอยู่กับคุณพ่อรูปอื่นซิสเตอร์ว่าน่าจะเป็นห่วงกว่าเยอะ ใครจะกล้าเล่นกับมาตรการซีเคียวริตี้ของพ่อราฟาแอล บ้านท่านดูปลอดภัยยังกับธนาคารสวิส ติดอยู่ตรงที่ท่านไม่ได้เลี้ยงหมาพันธุ์รอตไวเลอร์ไว้หน้าบ้าน ไม่มีทางทีเดียวที่จะมีขโมยงัดบ้านของท่าน นอกเสียจากโจรคนนั้นจะเป็นมือพระกาฬโจรกรรมเพชร แต่เขาจะเสียเวลามาปล้นบ้านท่าน นั่นก็ไม่ใช่...บ้านบาทหลวงนี่...ขอเป็นทางเลือกสุดท้ายละกัน.

นั่นแหละ นั่นแหละ... จากหกโมงเป็นเจ็ด เจ็ดเป็นแปด ทุกอย่างเริ่มเป็นที่เป็นทาง มีเสียงคนเดินอยู่ข้างบน (น่าจะเป็นคุณพ่อท่านนั่นแหละ) ซิสเตอร์เลยโล่งใจว่าฝันของซิสเตอร์หากจะเป็นประสงค์ของพระที่อยากพบซิสเตอร์เช้ากว่าเดิม แต่ไหนๆแล้วเอาของฝากไปฝากพ่อราแอลก็น่าจะดี เลยเอาข้าวหลามไปฝากท่านสองกระบอก ตอนนั้นท่านก็ดูปกติดีนี่หว่า.... ขอบคุณพระ ท่าจะไม่มีเรื่องกันจริงๆ ซิสเตอร์เลยไปร่วมมิสซาเช้า บรรกาศเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งจบมิสซา คุณพ่อราฟาแอลหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เอ.. มีใครเอาอะไรผิดสำแดงให้ท่านกินรึเปล่า? (อย่ารวมข้าวหลามซิสเตอร์นะ อันนี้ไม่เกี่ยวกัน) พอถามไปถามมาสรุปว่า "มีขโมยขึ้นบ้าน"

อ้าว..งานเข้าตัวโตๆแล้วล่ะคุณพ่อ!!.. อุตส่าห์คิดอย่างดิบดีแล้วว่าไม่น่ามีเรื่อง มันมามีเรื่องเอาตอนมิสซา คุณพ่อไปทำมิสซามีคนแอบเข้ามาในบ้านของท่านแล้วขโมยเงินบริจาคเฮติไปเสียดื้อๆ ว่าแต่ยังไงล่ะ?...เหรียญเป็นถุงๆยังสรรหาวิธีเอาไปได้ นับว่ามีความฉลาดล้ำจริงๆ ... ซิสเตอร์เลยบอกท่านถึงฝันของซิสเตอร์ ท่านก็แปลกใจอยู่พักหนึ่ง มันเป็นจริงอย่างที่ซิสเตอร์พูด.... มันมาในเวลาที่ไม่มีใครคาดถึง และอย่างรวดเร็วเสียด้วย เช่นเดียวกันกับคุณพ่อทัศนุว่าไว้ในหนังสือ ...วันขององค์พระเป็นเจ้ามาถึงเหมือนขโมย จงวางใจถ่อมสุภาพอย่างพระเยซูเถิด พระองค์ไม่เคยกัลวลพระทัยในสิ่งที่พระบิดาส่งให้มาผจญพระองค์ พระองค์ยอมรับและขอบพระทัย....อย่าคิดถึงวันนั้นเลย วางใจในพระเจ้าสิ !!

23.03.11

Independent Catholic Church of Germany and Australian Old Catholic Church - ความสัมพันธ์แห่งความสำเร็จ



คาทอลิกขั้วอิสระแห่งเยอรมันนี พันธมิตรที่ดีต่อคณะ O.C.C แห่งออสเตรเลีย ซึ่งนำทีมโดยอัครสังฆราชลูแรนตินุส หรือท่านลูแรนอัครสังฆราชผู้ใจดีแห่งเยอรมันนีและเลขาคู่ใจ ท่านพ่อนอร์เบิร์ต มารตินุส เลขาผู้แสนดีตลอดกาล..... และผ่ายออสเตรเลีย ...ท่านพ่อเอียน และท่านบิชอปพอล ซิมเมอร์แมนแห่งคณะฟรังซิสกันมิสชันนารีแห่งกางเขน ขั้วอำนาจสองขั้วที่เป็นพันธมิตรหันหน้าคุยกัน เปิดทางให้ความสะดวกกันอย่างโบสถ์พี่โบสถ์น้องอย่างเป็นทางการ เพื่อ O.C.C เยอรมัน และ O.C.C ออสเตรเลียจะได้มีโอกาสพูดคุยและทำงานร่วมกันอย่างสันติ ทั้งในและต่างประเทศ และบิชอปที่ลงเจรจาครั้งนี้คือ...

Erzbischof Laurentius Klein Fsf, Independent Catholic Church, International Old Catholic Alliance,Germany.
+++++A big welcome to ++ Erzbischof Laurentius Klein Fsf, in joining the International Old Catholic Alliance+++++


--โดยส่วนตัว ข้าพเจ้ารู้สึกชอบท่านมาก... ท่านบิชอปที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งใดๆ ท่านเป็นแบบอย่างที่ควรปฎิบัติตาม ทำอะไรก็ตาม.. ต้องให้เสร็จ... อย่าให้ค้าง...! สรุปว่าท่านไม่เคยปล่อยอะไรให้งานของท่านออกไปพรีเซ็นส์อย่างง่ายๆ ดูไม่จริงจัง... น่าเป็นสิ่งที่ O.C.C และ L.C.C ควรปฎิบัติ และควรเอารูปแบบการทำงานของท่าน (ซึ่งท่านไม่ได้จดลิขสิทธิ์) เชิญเอาไปปรับใช้กับการทำงานทุกงานที่ค้างดองอยู่บนโต๊ะ

Religious Society of Saint Simon-One of great group i have know.


The Religious Society of St Simon was founded under the name Society of Free Christians in 1999 by Revd. George Stephen Callander, broadly following the spirit of the Revd. Joseph Morgan Lloyd Thomas and the Society of Free Catholics. The intention of SFC was to promote liturgical worship in the Catholic tradition within liberal Christian, non-credal, non-judgemental theology. SFC was founded in parallel with the Society of the Divine Spirit, and for a time was the focus of that society's worship before the formation of the English Liberal Free Church, which subsequently adopted the name The Liberal Rite in 2007. Members over the years have come from different Christian traditions, both trinitarian and unitarian. In November 2006, the Society underwent re-organisation. The Catholic elements of the Society were re-constituted as the Religious Society of St Simon. Meanwhile, the more explicitly ecumenical and interfaith elements continued a separate existence as the Society for Humanistic Potential. Today, the Religious Society of St. Simon is a dependent religious society of the LCAC. Membership is free of charge and open to professed Christians who publicly support the Society's aims and wish to commit themselves to its principles. Associate Membership is open to those of any faith who recognise the common people, situations and beliefs that transcend the religions and the common origins of those beliefs. Membership is open to both clergy and laity and the understanding of the term "Catholic" is interpreted widely across denominational barriers. Members of the Society use the postnominal letters RSStS and recieve a certificate of membership.
Our Mumbers
.
-Patron: Rt. Revd. Adrian Glover, RSStS (LCAC and Cross Denominational Mission)
-President: Rt Revd. Andrew Hall, RSStS
-Rt. Revd David A Upton BSc (Hons) OSJ RSStS
-Rt. Revd Paul Zimmerman, RSStS (LCAC)
-Abp Frank Vandeventer Vandy, RSStS Archbishop of Christ Catholic Orthodox Church
-Metropolitan Isaac L Kramer, RSStS Reformed Gnostic Church
-Nathalie Walmsley-Beveridge, RSStS (LCAC)
-The Revd. Pastor Raven S. Scott, RSStS (Methodist/United Reformed Church)
-Dr. A. Michael D. Walsh, RSStS, Oblate OSB (Church of England)
-Michael Young, RSStS (Cross-Denominational Mission)
-Fr. Mark Paris RSStS (LCAC)
-FL's Kerati Sedtaruji (กีรติ เศรษฐรุจิ) RSStS( Liberal Catholic)
-Azam Vianney Mansha RSStS (Catholic)
-Nadeem Feroze RSStS Oblate of St. Benedict Affiliated with St. Vincent Arcabbey PA. USA

19.03.11

ประมวลภาพท่านพ่อพอล (ลี่)












บิชอปใหม่ พอล ซิมเมอร์แมน ฟรังซิสกันจากแดนจิงโจ้

Australian Old Catholic Church
Rt Revd Paul Zimmerman
+Paul John Zimmerman was a member of the Order of Ecumenical Franciscans under the jurisdiction of Archbishop Ron Langham. They had a small community in the Blue Mountains, west of Sydney, NSW. Paul however, lives in South Australia in a suburb of Adelaide. He joined AOCC in 2010 and after a short while, Paul was appointed Vicar General to replace Mhoira+ when she moved to England to take up the post of Vicar General of LCAC. He has subsequently formed a new religious order, known as the Franciscan Missionaries of the Cross, and he has launched a web site for them. Paul was consecrated in February 2011 by the Presiding Bishop AOCC,
+Ian Adrian.


วันที่ 26 กุมภาพันธ์พระคุณเจ้า พอล ซิมเมอร์แมนได้รับการอภิเษกเป็นบิชอปรูปใหม่แห่งโบสถ์คาทอลิกแห่งออสเตรเลียโดย Bishop Ian Adrian เจ้าคณะบิชอปแห่งออสเตรเลีย ท่ามกลางความดีใจของชาวคณะ O.C.C และเพื่อนนักบวชคณะมิสชันนารีฟรังซิสกันแห่งกางเขน

ทุกคนรู้จักพระคุณเจ้าซิมเมอร์แมนในฐานะอธิการแห่งคณะมิสชันนารีฟรังซิสกันแห่งกางเขน และพ่อผู้ใจดีผู้คอยช่วยเหลือในงานด้านคำสอนและที่ปรึกษา ข้าพเจ้าเองก็เป็นคนๆหนึ่งที่มีดอกาสขอคำปรึกษาตลอดจนความช่วยเหลือจากท่าน และท่านมักจะมีแนวคิดที่แปลกใหม่ เข้าใจง่ายและอิสระเสมอ เรียกได้อย่างดีๆ ง่ายๆ ว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่ไม่เคยเหงาหรือขาดงานสักวัน !!

"ข้าพเจ้ามีโอกาสรู้จักท่านจากการทำงาน และท่านอาร์ชบิชอป ลูแรนตินุสแห่งเยอรมันนี พ่อผู้ใจดีที่นำข้าพเจ้ามาพบกันพระสงฆ์ที่ทำงานอยู่ในประเทศใกล้ๆ ข้าพเจ้าเลยมีโอกาสขอคำปรึกษาจากท่านและขอให้ท่านช่วยงานในบางเรื่อง ซึ่งท่านก็คอยช่วยเหลือข้าพเจ้ามาตลอดที่ข้าพเจ้าอยู่ในตำแหน่งเล็กๆตำแหน่งนี้"